พลอย เฌอมาลย์ เคยดิ่งสุดในชีวิต จากมะเร็งสู่ซึมเศร้า


พลอย เฌอมาลย์ เคยดิ่งสุดในชีวิต จากมะเร็งสู่ซึมเศร้า


เป็นผู้หญิงที่หลายคนมองว่าแกร่ง แต่ความจริงคืออ่อนแอกว่าที่ใครคิด หนึ่งปีที่ผ่านมา พลอย เฌอมาลย์ ผ่านทั้งมะเร็งเต้านม โรคซึมเศร้า น้ำหนักลด 13 กก. และวันที่ไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้กลับมารักตัวเองได้อีกครั้ง ในรายการ WOODY FM

ช่วงที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้เห็นพลอยได้เปิดใจคุยหลายเรื่องมากๆ คุณคิดว่าวันนี้คนที่มาดูคอนเทนต์ของเราจะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องที่จะพูดคุยกัน?

พลอย เฌอมาลย์ : เป็นเรื่องของการให้กำลังใจเกี่ยวกับการรักตัวเองนะคะ และการก้าวข้ามผ่านความกลัว สู้และกลับมารักตัวเอง ดูแลหัวใจตัวเอง เป็นประสบการณ์ชีวิตของพลอยช่วงที่ผ่านมา คิดว่าน่าจะเป็นกำลังใจและ empower ให้คนอื่นๆ ได้ค่ะ

How are you feeling?

พลอย เฌอมาลย์ : ดีขึ้นค่ะ แต่ยังไม่ 100% เพิ่งกลับมาดีขึ้น ทุกอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป

ชีวิตของพลอยก็มีหลาย Chapter มาก มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในชีวิต บางเรื่องก็ถาโถมมาก มันมาเรื่อยๆ แล้วคุณบริหารจิตใจจากวันนั้นจนถึงวันนี้ได้วางในระดับในไหน?

พลอย เฌอมาลย์ : การบริหารจิตใจพูดตรงๆ พลอยไม่ใช่คนเข้มแข็งและแข็งแรง การที่พลอยแสดงตัวว่าดูแข็งแรง จริงๆ แล้วมันเป็นเกราะป้องกันตัว ตัวจริงเป็นคนอ่อนแอ ก็รักษาตัวเองตามสถานการณ์นั้นๆ ไป ทุกวันนี้ยอมรับเลยว่า อยู่วงการบันเทิงมา 30 กว่าปี บางเหตุการณ์พลอยยังไม่สามารถจัดการกับความคิดตัวเองได้ แต่ก็ไม่แปลก เพราะคนเรามีสิทธิ์ที่จะอ่อนแอ พ่ายแพ้ ไม่สามารถสู้กับความรู้สึกตัวเองได้ในแต่ละครั้ง แต่พลอยก็ค่อยๆ จัดการทีละนิด ทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ในช่วงนี้เราก็เห็นทั้งพลอยและหลายๆ ท่านด้วยกันก็ออกมาแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องมะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้หญิงพบเจอกันบ่อย ในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับเรื่องนี้คิดว่าสอนอะไรบ้าง?

พลอย เฌอมาลย์ : ความประมาทของพลอยเลย อย่าประมาทแม้แต่วินาทีเดียว ขอเท้าความนิดหนึ่งว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทของพลอย พลอยตรวจเจอก้อนเนื้อแล้ว แต่ตอนนั้นมันยังดูไม่น่าอันตรายเท่าไหร่ แล้วพลอยกลัวเข็มเจาะเส้นมากเลยชะล่าใจ ไม่ไปตรวจประมาณปีครึ่ง พอกลับไปตรวจอีกที รูปร่างของก้อนเนื้อเปลี่ยนเป็นมะเร็ง เขาเรียกระดับประมาณ 4B อะไรแบบนั้น สอนให้เรารู้ว่าไม่ควรจะประมาทกับการดูแลตัวเอง อย่าปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีกค่ะ

วันที่ถูกวินิจฉัยกี่ปีแล้ว?
พลอย เฌอมาลย์ : ปีที่แล้วค่ะ ปี 2024 ช่วงกุมภาพันธ์ ตอนรู้ครั้งแรกคือโอ้โหคำว่า "เป็นมะเร็ง" นี่ขาอ่อน น้ำตาไหลทันที ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเรา คนที่ออกกำลังกาย ดูแลตัวเองมาก แล้วตอนนั้นเครียดสูงมาก แต่เก็บไว้ไม่บอกใครใช้ชีวิตตามปกติ แต่ข้างในอ่อนแอมาก

พลอย เฌอมาลย์ เคยดิ่งสุดในชีวิต จากมะเร็งสู่ซึมเศร้า


ตอนรู้ว่าต้องรักษาแล้ว?

พลอย เฌอมาลย์ : ต้องผ่าตัดค่ะ เจอข้างซ้ายชัดเจนมาก แต่ข้างขวาไม่ชัด ต้องเจาะชิ้นเนื้อข้างขวาออกไปตรวจก่อนว่าคืออะไร สรุปข้างขวาเป็นหินปูนไม่อันตราย ส่วนข้างซ้ายฟันธงว่าต้องผ่า แล้วพอผ่าออกก็เอาชิ้นเนื้อมะเร็งไปตรวจ ก็พบว่ามีสองสายพันธุ์ เป็น ductal (มะเร็งเต้านม) และ buer (ต่อมน้ำเหลือง) เป็น Stage 2 แล้วเราก็ถามเขาว่าแล้วมันจะไป Stage 3 ไหม หมอบอกว่าต้องลุ้นตอนผ่าตัดเท่านั้น ตอนนั้นกลัวมาก กลัวว่าจะลามไปอวัยวะอื่น คุณหมอบอกไม่ต้องกังวล พอผ่าครั้งที่ 2 โชคดีมากคือมันจบแค่นั้น จากนั้นก็ฉายแสง 25 ครั้ง และทุกวันนี้ต้องกินยากดฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เข้าสู่วัยทองเร็วไม่มีประจำเดือนเกือบสองปี อารมณ์แปรปรวนหนักมากช่วงแรกๆ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วค่ะ

ช่วงที่แปรปรวนหนักที่สุดถึงขั้นโรคซึมเศร้า (Depression) ไหม?

พลอย เฌอมาลย์ : มากๆ เลยค่ะ มันเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะซึมเศร้ากลับมาเลย ทั้งความเครียดเรื่องรักษา แล้วมีเรื่องอื่นที่เข้ามาในชีวิตที่ทำให้เราหมดกำลังใจ เหนื่อยใจ เข้ามาในเวลาเดียวกัน ทำให้จิตใจเรารับไม่ทัน รับไม่ไหว Depression หนักมากๆ จนน้ำหนักลด 13 กก.กว่าภายใน 3 เดือน นอนไม่ได้ เครียด อยู่แบบนั้นเป็นปี เพิ่งดีขึ้นต้นเดือนเมษายนปีนี้เองค่ะ เก็บตัว ไม่เจอใคร

งานก็ไม่รับ?

พลอย เฌอมาลย์ : ตอนนั้นงานรับค่ะ แต่ต้องแคนเซิลละครไปหนึ่งเรื่อง เพราะร่างกายไม่พร้อม จิตใจไม่พร้อม เครียดหนักจนขนาดที่ว่าสูญเสียความเป็นตัวเองไป ร้องไห้จนจำไม่ได้ว่าพลอยคือใคร ทำไมเรารู้สึกว่าไม่มีความมั่นใจ ไม่มีเลยที่จะใช้ชีวิต ไม่กล้าทำอะไรเลย ใช้ชีวิตอยู่ในความหวาดระแวง และความกลัวของตัวเอง ขังตัวเองอยู่บ้านไม่ออกไปเจอคน นอนไม่ได้ มีเครียดค่อนข้างสูงมาก ประหลาดใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นได้


พลอย เฌอมาลย์ เคยดิ่งสุดในชีวิต จากมะเร็งสู่ซึมเศร้า


มีวิตกกังวลไหม?

พลอย เฌอมาลย์ : มีวิตกกังวลมาก อยู่ในสภาวะที่มีความเครียดสูง คือหลับตาเมื่อไหร่ในหัวก็จะคิดๆ panic attack มือไม้สั่น หน้าไม่มีรอยยิ้ม จนครูลูกกอล์ฟยังพูดว่า "พี่พลอยหนูรู้จักพี่มานานมากเลยนะ วันนี้ถ้าไม่รู้จักพี่มาก่อน หนูจำไม่ได้เลยว่านี่คือ พลอย เฌอมาลย์" เราก็แบบฟังแล้วตกใจมาก เพราะเราก็จำตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองแย่ที่สุดในชีวิตแบบนี้มาก่อน

เชื่อว่าหลายคนอาจจะกำลังเจอเหตุการณ์นี้ หรือกำลังเป็นแบบที่พลอยบอกคือดิ่งสุดแล้ว แล้วเกิดอะไรขึ้น แสงสว่างเริ่มเข้ามาตอนไหน?

พลอย เฌอมาลย์ : ตอนนั้นดิ่งสุดแล้ว เจ็บให้มันสุด ไปให้มันสุด จนความเจ็บนั้นมันเป็นเรื่องที่เราไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว เริ่มชินชา เพราะพลอยเป็นคนไม่สามารถฮึบขึ้นมาได้ในไม่กี่วินาที เหมือนพลอยรู้สึกว่าอยู่กับความทุกข์มานานเป็นปีกว่าแล้ว เลยรู้สึกว่าอยากพ้นจากตรงนั้น รู้สึกว่าดูสภาพตัวเองแล้วดูไม่ได้เลย ไม่อยากเป็นคนๆ นี้อีกแล้ว อยากได้พลอยคนเดิมกลับมา ก็เริ่มรู้สึกว่าต้องดึงหัวใจกลับมาที่บ้าน เอาใจตัวเองกลับมา รักตัวเอง คำว่าเราตัวเองเราเคยฟังผ่านๆ เยอะๆ

พลอยตั้งใจและพินิจพิเคราะห์ว่ารักตัวเองคืออะไร ทำให้ตัวเองมีความสุข ดูแลตัวเอง ความรักที่เราเคยมีให้ใคร หรือเคยให้สิ่งนั้นกับใคร เราให้ตัวเองบ้างสิ ทำให้กับตัวเอง ก็เลยเริ่มฟื้นขึ้นมา เริ่มให้กำลังใจตัวเองทุกวัน กอดตัวเองแน่นๆ กลับมาออกกำลังกาย เริ่มนอนดีขึ้น รักษาตัวเอง ทำทุกอย่างให้ตัวเองสุขภาพดี ให้ตัวเองมีความสุข บางวันก็อาจจะมีบ้างที่กลับไปคิดถึงความเครียดของเรา ก็พยายามแคนเซิลๆ ไม่เอาพลอย คิดได้พอๆ หยุด เราต้องเดินต่อไปข้างหน้า ไม่จมอยู่กับที่เดิม

ดึงสติกลับมาปัจจุบัน?

พลอย เฌอมาลย์ : ใช่ค่ะ ทำบ่อยๆ ฝึกให้เป็นนิสัย มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะเผลอเอาตัวเองกลับไปอยู่ในความทุกข์ หรือว่าไปอยู่ในเรื่องราวของอดีตที่เราไม่สามารถลืมได้ ให้มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ แล้วเราก็ต้องมีสติที่จะต้องดึงตัวเราออกมาจากตรงนั้น


พลอย เฌอมาลย์ เคยดิ่งสุดในชีวิต จากมะเร็งสู่ซึมเศร้า


อาจเป็นการซ้อมหนีไฟครั้งใหญ่ของเรื่องบางอย่างในอนาคต เชื่อว่ามีลงก็ต้องมีขึ้น?

พลอย เฌอมาลย์ : ใช่ค่ะ ชีวิตมันคงไม่แย่ไปตลอด อยู่ที่เราเลือกด้วยนะคะ พลอยเชื่อว่าเราสามารถควบคุมความคิดของเราได้ เราสามารถควบคุมตัวเองได้ เอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีได้ หยุดคิดอะไรที่มันเศร้าๆ หยุดจมกับอดีต บังคับตัวเองให้เดินหน้า แล้วก็บอกตัวเองว่าอย่าไปควบคุมอะไรที่เราควบคุมไม่ได้ ปล่อยวาง ช่างมัน เพราะก่อนหน้านั้นพลอยไปพันธนาการกับความทุกข์ อยู่ตรงนั้นเอาตัวเองออกมาไม่ได้ เป้นจุดที่ดิ่งมากๆ แต่ว่า ณ วันนี้ที่เอาตัวเองออกมาได้แล้วรู้สึกมีความสุขมากๆ แล้วก็ภาคภูมิใจในตัวเองมากๆ ว่าเราเดินหน้าต่อไปนี้ เพราะก่อนหน้านั้นพลอยแย่มาก จนรู้สึกว่าพรุ่งนี้ฉันจะมีชีวิตรอดไหม ทำไมทุกอย่างมืดไปหมด ไม่มีความสุขเลย ดีใจที่ตัวเองผ่านมาได้ ด้วยคำที่ว่า รักตัวเองบ้างเถอะ

แค่เราบอกว่ายังมีลมหายใจอยู่ แค่นี้ก็ถือว่าดี?

พลอย เฌอมาลย์ : เป็นอะไรที่โชคดีแล้ว พลอยไม่คิดว่าจะโชคดีขนาดนี้ที่ได้มีชีวิต เพราะฉะนั้นต้องรักษาชีวิตให้ดีๆ การเกิดมาเป็นคนถือว่าโชคดีแล้วค่ะ

ถ้าจะต้องเลือกหนึ่งเรื่องที่คุยกันในวันนี้ที่คุณคิดว่าสำคัญมาก น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนดู?พลอย เฌอมาลย์ : คนเราทุกคนล้มได้ แต่เพียงแค่ว่าล้มแล้วอย่าจมกับมันนาน เราต้องลุกขึ้นมาสู้เพื่อตัวเอง อยากให้ทุกคนต่อสู้กับความกลัวของตัวเอง เอาชนะกับความหวาดกลัวของตัวเองให้ได้ หันมารักตัวเอง เยียวยาจิตใจตัวเอง ทำชีวิตให้ดีและมีความสุข รักและให้เกียรติตัวเอง

พลอย เฌอมาลย์ เคยดิ่งสุดในชีวิต จากมะเร็งสู่ซึมเศร้า

เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์