ย้อนจุดเริ่มต้นรักทางไกล หมิง ชาลิสา ไม่ใช่ปัญหา! อึ้งคบ1ปีแต่งเลย
หน้าแรกTeeNee ข่าวดาราล่าสุด, ข่าวดาราวันนี้ ดาราไทย ย้อนจุดเริ่มต้นรักทางไกล หมิง ชาลิสา ไม่ใช่ปัญหา! อึ้งคบ1ปีแต่งเลย
รายการคุยแซ่บshow พูดคุยกับเจ้าสาวป้ายแดง หมิง ชาลิสา ที่เพิ่งสละโสดไปหมาดๆ กับสามีหนุ่มนอกวงการ วันนี้เลยอยากจะเล่าย้อนเส้นทางรักคบกัน 1 ปีแต่งเลย รวดเร็วมาก!!
หมิง : เรื่องความรักครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีผู้จัดการของหมิง ตอนนั้นเราไปไหว้พระกับคุณแม่ที่ญี่ปุ่น พี่โอม ผู้จัดการหมิงเขาโทรหาถามว่าหมิงอยู่ไหน หมิงบอกอยู่ญี่ปุ่น เขาบอกว่ากลับมาเจอกัน หมิงก็ถามว่าทำไม เขาบอกเอาน่า ฉันจะพามาดูว่าที่น้องเขยของฉัน หมิงก็คิดว่าพูดเล่น เลยถามว่าพี่อยู่ไหน เขาบอกมาทำกฐินที่อุดรฯ เสร็จแล้วกลับมานัดจริงหลังจากวันเกิดหมิง 1 วัน เขาบอกว่าว่างไหม หมิงก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เหมือนพี่พามาเจอรุ่นน้องเขา พอเจอเขาก็ถามว่าอยู่อุดรฯ ได้ไหม เรื่องของเรื่อง พี่อุ๋ยภรรยาพี่ดู๋ สัญญา เป็นรุ่นพี่ที่สนิทกับพี่เขา แล้วพี่อุ๋ยกับพี่โอมเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาเลยมองๆ เอาไว้ ว่าน้องสาวเราโสดนะ เขาก็ช่วยๆ กันหา แล้วเขาก็มองว่าคนนี้เหมาะกับเรา เพราะเราชอบทำบุญ แล้วครั้งแรกที่พี่อุ๋ยกับพี่โอมโทรไปหาพี่เขาถามว่าทำอะไรอยู่ เขาบอกว่ามางานบุญแจกตู้เย็น ก็สายบุญเหมือนกันน่าจะเหมาะแหละ
ถามว่าชอบเขาตรงไหน หมิง บอกว่า ตอนแรกคือไม่ชอบเลย แต่มันไม่ชอบเลยแบบนั้น เรามองว่าเขาเป็นผู้ชายคนละไทค์กับเรา เราเป็นเด็กสายศิลป์ เขาเป็นเด็กสายวิทย์ จบวิศวะ ทุกอย่างเขาอยู่ในกรอบ คุยอะไรกันเรารู้สึกว่าทำไมต้องเป๊ะแบบนั้น เรารู้สึกว่ายืดหยุ่นได้ แต่พอเราไปเจอกับความเป๊ะของเขา เรามีความอึ้งเล็กน้อย ตอนปีใหม่เขาชวนหมิงกับคุณแม่ไปอุดรฯ กำลังทานข้าวร้านลาบ ไม่ได้โรแมนติกอะไรเลย เขาก็เงียบอยู่คนเดียว แล้วบอกว่าคุณแม่ครับ ต่อไปนี้ผมขออนุญาตจีบน้อง คือเขาจริงจัง
นาทีนั้นแม่ก็อึ้งไปพักนึง ไม่คิดว่าเขาจะจู่โจม แล้วแม่ก็ถามว่าทำไมถึงเลือกมาถามแม่ เขาก็บอกว่าผมอยากเข้าตามตรอกออกตามประตู อยากให้แม่สบายใจว่าผมตั้งใจมาจีบน้อง แม่ก็บอกว่าลองถามน้องแล้วกันว่าน้องโอเคไหม แล้วหลังจากนั้นก็คุยกันเป็นเดือน เขาก็ขอนัดคุณแม่อีก ตอนแต่เขาบอกว่าหมิงเราคบกันมาสักระยะแล้ว อย่างที่ลอกเขาเป็นสายวิทย์ เขาจะเป๊ะๆ เขาจีบหมิงสัก 2 เดือน เขาจะมาเป็นแฟน พอช่วงนั้นมันก็ถึงระยะเวลาที่มันต้องเป็นแฟนกัน เขาบอกว่าหมิงถึงเวลาแล้วไหม เรามาเป็นแฟนกัน หมิงก็ติดตลก บอกว่าพี่ไปขอแม่แล้วกัน ถ้าแม่ให้ หมิงก็เป็นแฟนพี่ เขาก็บอกงั้นนัดเลย คือทุกแมตช์เขารุกมาก
หมิง ยอมรับว่ากว่าจะคบกันก็มีความไม่ไว้ใจอยู่ลึก ๆ เพราะช่วงที่เขาขอเป็นแฟน หมิงก็บอกว่าพี่เอาจริงๆ หมิงว่าเราเข้ากันไม่ได้ คำว่าเข้ากันไม่ได้ของหมิงคือด้วยไลฟ์สไตล์ที่มันห่าง เราคิดภาพไม่ออกว่าการที่เราจะคบคนระยะทางไกลมันเป็นยังไง เราจะต้องเจอกันเดือนนึงกี่ครั้ง ถ้าเขาอยู่ตรงนู้น เราไม่ได้คุยกับเขาเลย เขาอยู่ไหน ทำอะไร ตรงนั้นมันเป็นคนละสังคม หมิงสังคมกรุงเทพ เขาสังคมอุดรฯ มันคนละสังคม หมิงก็บอกเอายังไงอะ หมิงไม่มั่นใจพี่ เขาก็บอกว่าหมิงอยากให้พี่ทำอะไรไหม พี่จะได้ทำให้หนูสบายใจ หมิงก็บอกว่า ไม่รู้จริงๆ มันพูดไม่ได้ มันบอกไม่ถูกว่าจะให้ทำอะไร เขาก็พูดของเขาเองว่าเดี๋ยวพี่จะวีดิโอคอลหาหมิงนะ ตอนแรกเราคิดว่าเขาจะวีดิโอคอลมาให้รู้ว่าอยู่ไหน ทำอะไร พอเขาพูดปุ๊บ เขาก็วีดิโอคอลหาเรา ตอนแรกก็แปลกๆ แต่ก็รู้สึกว่าเขาทำให้ เพราะเราไม่ได้ขอ แต่เสร็จปุ๊บเขาไม่วางเลย ถ้าเขาขับรถเขาก็ตั้งในรถ 24 ชั่วโมง หมิงก็หลับไปเลย ตื่นเช้ามาเขาก็จะเรียก
ซึ่งการวีดิโอคอล 24 ชั่วโมง เขาก็ยังทำมาถึงทุกวันนี้ เขามองว่าอะไรที่ทำให้เราสบายใจเขาทำให้ สิ่งนึงที่หมิงรู้สึกไม่ทำให้เขาอึดอัด คือหมิงไม่ได้บังคับเขาเลย คือเราโตแล้ว เราไม่อยากอยู่กับใครที่เราบังคับแล้วเขาทำ แต่เขาทำด้วยความเต็มใจของเขา บางทีสายหลุด เขาจะโทรมาเองว่าอยู่ไหน ทำไมหลุดไป
พอคบกันสักระยะก็เริ่มคุยเรื่องแต่งงาน เราก็คิดว่าเขาคุยเล่น เขาก็บอกว่าประมาณ เดือน 5-6 เราไปตรวจสุขภาพกัน คือเขาก็พาไปจริงๆ แบบแพ็คเกจพร้อมมีครอบครัว แต่เรายังไม่ได้ทำอะไรนะ ตรวจไว้ก่อน ทุกอย่างมันอยู่ในหัวเขาเลยว่า พอตรวจสุขภาพเสร็จปุ๊บเขาถึงจะเดินไปบอกคุณพ่อ คุณแม่ว่าเขาจะมาขอเรา อันนี้มันเป็นขั้นตอนของเขานะ หลังจากที่เขาทำแล้ว เขาถึงมาเล่าให้เราฟัง ทุกคนคิดภาพที่เขามาขอเราคิดว่าหมิงกับที่บ้านคุยกันเรียบร้อยแล้ว เปล่า คือเขามาขอโดยที่เขาไม่ได้คุยกับที่บ้านเลยว่าจะแต่งนะ เขาขอของเขาเอง